บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เจ็บอกใครคิดว่าไม่สำคัญ



เจ็บอกใครคิดว่าไม่สำคัญ
มันแน่นอก ก็ยกออก ให้แบกเอาไว้นานไปหัวใจถลอก
ที่สำคัญไม่ใช่เพราะเป็นเพลงฮิตติดหู ไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่เป็นเพราะบริเวณหน้าอกนี้เป็นที่อยู่ของอวัยวะที่สำคัญกับร่างกายมาก ๆ ถ้าเกิดความผิดปรกติแล้วจะมีอันตรายถึงชีวิตนั่นเอง อวัยวะที่สำคัญดังกล่าวนี้ก็คือ หัวใจ และหลอดเลือดแดงใหญ่นั่นเอง
ถ้าถามว่าในที่นี้มีใครบ้างไม่เคยเจ็บหน้าอกบ้างยกมือขึ้น คงจะแทบไม่มีเลย เพราะคำว่าเจ็บหน้าอกนั้นกว้างเหลือเกิน แล้วอาการเจ็บแบบไหนล่ะที่ว่าสำคัญ เราสามารถแยกแยะอาการเจ็บได้ไหมว่าแบบไหนอันตราย แบบนั้นไม่อันตราย
อาการเจ็บหน้าอกที่มีความสำคัญ และต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน โดยไม่ต้องรีรอ
1.      อาการเจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นมาฉับพลัน และเจ็บมากจนทนไม่ไหว เป็นครั้งแรกในชีวิต
2.      อาการเจ็บหน้าอกที่ร่วมกับอาการเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้
3.      อาการเจ็บแน่นหน้าอกที่ร่วมกับอาการเหงื่อออกทั่วตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ( ไม่ใช่เหงื่ออกที่มือนะ ) เป็นอาการเหงื่อออกทั้งตัว ร่วมกับตัวเย็น
4.      อาการเจ็บแน่นหน้าอกที่เป็นร่วมกับอาการเป็นลมหมดสติ วูบ
5.      อาการเจ็บแน่นหน้าอกที่พบในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง เรื่องหลอดเลือดหัวใจ เช่น เบาหวาน ความดันไขมันในเลือดสูง หรือผู้ป่วยที่เคย ทำบัลลูนหลอดเลือดหัวใจ หรือผู้ป่วยที่เคยทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ ลักษณะอาการเจ็บแน่น ๆ เป็นมากขึ้นเวลาออกแรง หรือยกของหนัก นั่งพักแล้วดีขึ้น
อาการเจ็บแน่นหน้าอกที่ไม่น่าจะมีอันตรายใด ๆ
1.      อาการเจ็บจี๊ด ๆ เป็นครั้งละ สั้น ๆ นานไม่ถึงนาที พวกนี้มักจะเป็นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หรือเส้นประสาท บริเวณหน้าอก ไวผิดปรกติ
2.      อาการเจ็บหน้าอกที่เป็นยาวนานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือเป็นปี โดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น ออกกำลังกายได้ปรกติ
3.      อาการเจ็บหน้าอกที่เป็นมากขึ้นขณะพัก และดีขึ้นเวลาไปออกกำลัง หรือมีกิจกกรรม
4.      อาการเจ็บหน้าอกที่บอกตำแหน่งได้ชัดเจนมีจุดกดเจ็บ มักจะเป็นกล้ามเนื้อหรือกระดูกอ่อนอักเสบพวกนี้มักเป็นเจ็บนานประมาณ  2-3 สัปดาห์ ทานยาแก้ปวดจะหายได้
5.      อาการเจ็บหน้าอกที่บอกสาเหตุได้ชัดเจน เช่นมีแผลบริเวณผิวหนัง หรือมีรอยช้ำที่เกิดจากการบาดเจ็บออกแรงบริเวณหน้าอก
สาเหตุของการเจ็บหน้าอกนั้นมีมากมาย มีตั้งแต่อันตรายมาก จนอาจถึงชีวิตเลยในไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่นาที หรือ อาจจะเป็นแค่ผิว ๆ ไม่มีอันตรายใด ๆ แต่บั่นทอน ความรู้สึกของผู้ป่วยจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปรกติ อันเนื่องมาจากความกลัวจะเป็นโรคนั่นเอง เพราะฉะนั้นการวินิจฉัยสาเหตุของการเจ็บหน้าอกจึงมีความสำคัญ และไม่สามารถจะแยกแยะจากอาการได้อย่างเดียว มีความจำเป็นต้องตรวจร่างกาย และตรวจค้นด้วยการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่นการทำคลื่นหัวใจ การตรวจสมรรถภาพหัวใจโดยการเดินสายพาน หรือ การตรวจเลือดเพื่อดูการทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจ และดูปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
    บริเวณหน้าอกที่คนส่วนใหญ่เข้าใจคือบริเวณตั้งแต่ชายโครงขึ้นมาจนถึงหัวไหล่ อาการเจ็บหน้าอกที่คนส่วนใหญ่มาปรึกษาหมอ บ่อยที่สุดคือ อาการเจ็บแน่น อึดอัด หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่ทั่วท้อง หวิว ๆ รู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนไม่มีแรง ใจสั่นเป็นบางครั้ง อันนี้นับว่าพบบ่อยที่สุด ส่วนใหญ่สาเหตุของอาการเจ็บแน่นหน้าอกนั้นเป็นอาการของกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนอักเสบ หรือเส้นประสาทไวผิดปรกติ หรือ มีโรคกรดไหลย้อน แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีความกังวลร่วมอยู่ด้วยจึงทำให้อาการเป็นยาวนาน และรักษาไม่หาย ไปพบแพทย์ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่เกรงหมอจะตรวจไม่พบ และวินิจฉัยผิด
    ยิ่งไปพบแพทย์บางท่านไม่ค่อยพูด ตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ พบลิ้นหัวใจรั่วนิดหน่อย หรือลิ้นหัวใจยาวนิดหน่อย ยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่คิดว่าตนเป็นโรคหัวใจ จากคนไม่เป็นโรคก็กลายเป็นคนเป็นโรคหัวใจไป ความจริงแล้วการพบลิ้นหัวใจรั่วนิดหน่อย หรือยาวนิดหน่อยนั้นสามารถพบในคนปรกติได้ เหตุที่ผิดปรกติเพราะเครื่องมือมีความไวในการตรวจมากเกินไป เวลาแพทย์รายงานผลการตรวจก็ต้องรายงานว่ามีลิ้นหัวใจรั่วนิดหน่อย อันนี้ต้องขอบอกไว้ว่า เป็นเรื่องปรกติ ไม่ต้องกังวล เคยมีคนไข้บางท่านถึงขั้นไปตรวจหัวใจกับหมอหัวใจมาแล้วทุกโรงพยาบาล ได้รับการทำอัลตราซาวด์หัวใจ หรือที่เรียกว่า เอคโค่ มานับเป็น 10 ครั้ง ที่เจ็บหน้าอกเพราะถูกตัวหัวตรวจกดบริเวณหน้าอกจนช้ำไม่หายปวดสักที อย่างนี้เรียกว่า โรคของใจ ไม่ใช่โรคหัวใจ โรคของจิตใจต้องแก้เรื่องจิตใจ กินยาใดก็ไม่มีทางหาย
   มีโรคอีกชนิดหนึ่ง เรืยกว่าโรคลิ้นหัวใจยาว หรือลิ้นหัวใจโผล่แลป ( mitral valve prolapsed ) มักพบในผู้หญิงวัยกลางคน อายุไม่มาก ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการ ใจสั่น เจ็บหน้าอก หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม ตรวจร่างกายมักปรกติหรือได้ยินเสียงลิ้นหัวใจรั่ว แต่ทำอัลตราซาวด์หัวใจ แล้วพบมีลิ้นหัวใจรั่วและหย่อน เล็กน้อย สาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบชัดเจน สันนิฐานว่าอาจจะมี มีสารหลั่ง ที่ไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติมากผิดปรกติ ทำให้มีใจสั่น หวิว วูบได้มาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะอาการมาก และเจ็บป่วยยาวนาน แต่ การพยากรณ์โรคดี อัตตราการเสียชีวิตเท่ากับคนปรกติ เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็นโรคนี้ก็ให้รู้ไว้ว่าไม่ต้องกลัว รักษาได้ แพทย์อาจให้ยาทาน ลดอาการใจสั่นในบางครั้งที่เกิดอาการ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง โดยไม่มีอันตรายถึงชีวิต ขอให้เข้าใจโรค เราก็จะอยู่กับมันได้
ความจริงแล้วที่ว่าเจ็บแน่นหน้าอกนั้นสำคัญ เพราะมันเป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นของโรคร้ายอยู่ สี่โรคที่ทำให้ผู้ป่วยถึงชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างฉับพลัน อันได้แก่
1.      โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ( Acute Myocardial  Infarction  ) เกิดจากการที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันทันที ผู้ป่วยจะเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ร่วมกับอาการเหนื่อยหายใจ ไม่สะดวก และ เหงื่อออกตัวเย็น อาการเจ็บมักจะเป็นนานกว่า 20 นาที ภาวะนี้ต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำคลื่นหัวใจเพื่อได้รับการวินิจฉัยใน 10 นาที และได้รับการเปิดหลอดเลือด ภายในเวลาไม่เกิน 120 นาทีหลังอาการปวด เกิดขึ้น มิเช่นนั้นจะมีอันตรายถึงชีวิต
2.      โรคหลอดเลือดแดงใหญ่แตกเซาะ (Acute  Aortic Dissection ) หลอดเลือดแดงใหญ่คือท่อประปาท่อใหญ่ที่นำเลือดจากหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจเกิดการแตกเซาะได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง อยู่ อาการมักจะมาด้วยอาการเจ็บกลางอกทะลุไปที่หลัง เป็นทันทีเหมือนถูกฉีกเส้นเลือดออก อาจเป็นร่วมกับอาการหน้ามืดเป็นลม อาการปวดจะเป็นมากและยาวนานกว่า ชั่วโมง ถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดอัตตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ทุก 1 % ต่อ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดทันทีผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 4 วัน
3.      โรคหลอดเลือดแดงปอดอุดตันด้วยลิ่มเลือด( Acute Pulmonary Embolism)  ภาวะนี้ผู้ป่วยมักจะมีอาการเจ็บอกไม่มากแต่มีอาการเหนื่อยหอบขึ้นมาทันที อันเนื่องจากลิ่มเลือดก้อนใหญ่บริเวณขาไหลไปอุดตั้นที่ขั้วปอดทำให้เลือดำไปฟอกที่ปอดไม่ได้ ทำให้เสียชีวิตทันที ถ้าไม่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด
4.      โรคปอดแตกเฉียบพลัน ( Pneumothrorax ) โรคปอดแตก ไม่ใช่ปอดแหกนะคะ คนละอันกัน โรคนี้เกิดกับผู้ป่วยที่มีถุงลมไม่แข็งแรง เวลาขึ้นที่สูง อาจมีปอดแตกออกทำให้ดันปอดทั้งซีกแฟบลง และทำให้ถึงชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการเจาะลมออกจากช่องปอด อาการของผู้ป่วยมักเกิดขึ้นทันทีทันใด เจ็บหน้าอก ร่วมกับอาการเหนื่อย และเป็นลมหมดสติได้
ใน 4 ภาวะนี้เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยถึงชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าวินิจฉัยไม่ได้ และรักษาไม่ทันผู้ป่วยอาจถึงชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นถ้ามีอาการดังกล่าวควรนำผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยด่วน
   ในทางตรงข้ามกันถ้าอาการเจ็บแน่นหน้าอกนั้นเป็นมาเป็นแรมปี เป็นแบบน้อย ๆ หรือเป็น ๆ หาย ๆ เป็นพัก ๆ ท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บความกังวลไว้ ควรจะไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยให้ชัดเจนว่าท่านเจ็บแน่นหน้าอกจากสาเหตุใดบ้าง ไม่ควรจะวิเคราะห์วิจัยด้วยตัวเอง เพราะอาการเจ็บหน้าอกเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งหนักและเบา มีทั้งอันตรายมาก อันตรายน้อย หรือไม่อันตรายเลย ทุกโรครักษาได้ ยิ่งเรามีข้อมูลมาก ปัญหาจะน้อย ปัญหาของคนที่เจ็บหน้าอกส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไม่ทราบว่าเป็นอะไร และมีความกังวล ว่าตนจะเป็นโรคร้าย บางท่านไม่ยอมไปพบแพทย์เพราะเกรงจะพบโรค  หรือบางท่านไปพบแพทย์แต่ไม่ยอมตรวจใด ๆ เพราะเกรงจะพบโรค ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นโรค เป็นโรคคิดไปเอง
สิ่งที่ควรทำเมื่อท่านเจ็บแน่นหน้าอก คือไปพบแพทย์ทันที ถ้าท่านมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกร่วมกับสัญญาณอันตรายทั้ง 5 ข้างต้น และขอให้แพทย์ทำคลื่นหัวใจให้ท่าน เพื่อวินิจฉัยแยกโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเรามีเวลาไม่มากสำหรับโรคนี้ หลังจากนั้นเราพอมีเวลาที่จะตรวจวินิจฉัย แยกโรคอื่น ๆ ออกไป โดยไปพบแพทย์หัวใจ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติ่ม ผลการตรวจอาจจะออกมาได้เป็น 3 ระดับ โรค ตั้งแต่
1.      โรคที่มีอันตรายน้อย ไม่ต้องรักษาก็หายเองได้ หรือรักษาตามอาการเท่านั้น เช่น  ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนอักเสบ หรือ หรือระบบประสาทอัตโนมัติไวผิดปรกติ หรือ mitral valve prolapsed หรือโรค พานิค อาจต้องพบจิตแพทย์
2.      โรคที่ต้องได้รับยา แล้วจะดีขี้น เช่น โรคเยื่อหุ้ม ปอด เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ โรคกรดไหลย้อน หรือโรคหลอดอาหารบีบตัวเป็นตะคริว หรือหลอดเลือดหัวใจเป็นตะคริว ( coronary spasm )   เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าได้รับการรักษาตรงโรคอาการจะดีขึ้น
3.      โรคที่อันตรายถึงชีวิต 4 โรคดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับการรักษาเฉียบพลัน
เมื่อทราบสาเหตุแล้ว ขอให้วางใจ แต่ให้แพทย์รักษาตามโรค ถ้าอยู่ในกลุ่มที่ 1 ขอให้ท่านวางใจ เมื่อถึงเวลาอาการจะดีขึ้นเอง ถ้าอยู่ในกลุ่มที่สอง ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะรักษาท่าน
                                                                                  แพทย์หญิง ธัญรัตน์ อร่ามเสรีวงศ์
                                                                               อายุรแพทย์หัวใจโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น